จดทะเบียนแบรนด์สินค้าด้วยตัวเองง่าย ๆ + แนะนำการเตรียมตัวแบบครบถ้วน

เนื้อหาบทความนี้

เชื่อว่าเพื่อน ๆ เจ้าของร้านค้ามือใหม่หลายคนที่กำลังสร้างแบรนด์ของตัวเองอยู่อาจจะมี To do list หลายอย่างที่ต้องทำเลย ซึ่งนอกจากการจดทะเบียนร้านค้าปลีกแล้ว สิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้คือ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ซึ่งเครื่องหมายการค้าคืออะไร ทำไมถึงต้องจด ไม่จดจะมีปัญหาไหม แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง PUNDAI ด้วยรวบรวมขั้นตอนพร้อมการจัดการแบบรวบรัด ครบถ้วน มาให้แล้วในบทความนี้ สามารถอ่านต่อได้เลยค่า!

ทำไมต้องจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ?

เครื่องหมายการค้า (Trademark) คือ เครื่องหมายสัญลักษณ์ที่ใช้แสดงให้เห็นว่าสินค้าหรือบริการของร้านค้านั้น ๆ มีความแตกต่างจากสินค้าของแบรนด์อื่น ๆ ในสินค้าประเภทเดียวกัน เช่น เครื่องหมายการค้า Apple ซึ่งแม้จะเป็นเครื่องมือสื่อสารแต่ก็เป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันด้วยเครื่องหมายการค้านั่นเอง

สำหรับร้านค้าแล้วแนะนำให้ทำการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อประโยชน์ทางด้านกฎหมายและการดำเนินการทางธุรกิจต่าง ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง และเครื่องหมายร่วมที่ร้านค้าสามารถขอจดทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เช่นกัน

ข้อดีของการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า

ประโยชน์ทางกฎหมาย

เครื่องหมายการค้า ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2543 และพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2559 หมายความว่า เครื่องหมายการค้านั้นจะได้รับความคุ้มครองจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นระยะเวลา 10 ปี (สามารถต่ออายุได้ภายหลัง) ซึ่งหากมีผู้ใดนำเครื่องหมายการค้าไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากร้านค้า ร้านค้าผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าสามารถดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยฟ้องร้องเรียก “ค่าสินไหมทดแทน” ได้

ประโยชน์ทางธุรกิจ

  • เป็นการสร้าง Branding ช่วยให้ลูกค้าจำร้านค้าของคุณได้ง่ายขึ้น
  • สร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ของร้านค้าได้มากขึ้น
  • เครื่องหมายการค้าเป็นหนึ่งในเครื่องแสดงความน่าเชื่อถือ สามารถนำไปเป็นหลักค้ำประกันกรณีทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินและธนาคารได้
  • สามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจ เช่น การขายแฟรนไชส์ได้
  • สามารถจำหน่ายหรือมอบสิทธิ์การใช้เครื่องหมายการค้าได้
  • สามารถนำเครื่องหมายการค้าไปใช้กับสินค้าอื่น ๆ ในร้านค้าเพื่อสร้างรายได้เพิ่มได้

จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ที่ไหน

  • ยื่นจดทะเบียนแบรนด์สินค้าด้วยตัวเอง ที่สำนักงานกรมทรัพย์สินทางปัญญา
  • ยื่นจดทะเบียนแบรนด์สินค้าด้วยตัวเอง ที่สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัด
  • ยื่นเอกสารขอจดทะเบียนทางไปรษณีย์ ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา
  • ยื่นจดเครื่องหมายการค้า ออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.ipthailand.go.th

หากเพื่อน ๆ ที่สนใจทำธุรกิจออนไลน์ ทาง PUNDAI ของเราพร้อมนำเสนอสาระดี ๆ ด้านการทำการตลาดออนไลน์ และให้ความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ที่สร้างความเชื่อมั่นและรายได้

ลักษณะเครื่องหมายการค้าที่สามารถจดเครื่องหมายการค้าได้

  • เครื่องหมายการค้าที่มี “ความแตกต่าง” ที่สามารถทำให้คนทั่วไปแยกแยะแบรนด์สินค้าของร้านค้านั้นออกจากสินค้าจากร้านค้าอื่น ๆ ได้ เช่น คำที่ประดิษฐ์ขึ้น, ภาพที่ประดิษฐ์ขึ้น
  • เครื่องหมายการค้าต้องไม่มี “คำบรรยาย” เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการโดยตรง เช่น คำว่า Food สำหรับแบรนด์ขายอาหาร
  • เครื่องหมายการค้าต้อง “ไม่ซ้ำ” กับเครื่องหมายการค้าที่มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้ว
  • เครื่องหมายการค้านั้นต้องไม่มีลักษณะใด ๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย เช่น คำหยาบคาย, คำลามกอนาจาร, คำเกี่ยวกับศาสนา, ตราของแผ่นดิน,​ธงชาติของทุกประเทศ, ธงราชการ,​ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เป็นต้น

จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เอกสารต้องใช้อะไรบ้าง ?

  1. ต้นฉบับฟอร์มขอจดทะเบียนการค้า ก.01
  2. ภาพเครื่องหมายการค้าที่ต้องการนำไปจดทะเบียน ขนาดไม่เกิน 5 x 5 เซนติเมตร ขนาดไฟล์ไม่เกิน 500KB จำนวน 1 รูป กรณีขนาดเครื่องหมายการค้าใหญ่เกินที่ระบุ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่ม เซนติเมตรละ 200 บาท
  3. บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของเครื่องหมายการค้า

ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ออนไลน์

  1. ก่อนยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า แนะนำว่าควรตรวจสอบว่าเครื่องหมายการค้ามีความคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ที่ทำการจดทะเบียนไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาไว้แล้วหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ 2 วิธี ดังนี้
  • วิธีที่ 1 : ไปตรวจที่สำนักงานกรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยเสียค่าธรรมเนียมชั่วโมงละ 100 บาท สำหรับการตรวจค้น
  • วิธีที่ 2 : ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ www.ipthailand.go.th
  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา >>www.ipthailand.go.th
  2. กดแท็บเมนู “บริการออนไลน์”  >> “ระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาอิเล็กทรอนิกส์”
  3. เลือก “Trademark” >> คลิกแบบฟอร์ม ก.01 
  4. ทำการกรอกฟอร์ม ก.01 ให้เรียบร้อย
  5. แนบเอกสารที่ฟอร์มระบุไว้แล้วให้เรียบร้อย ระบบจะคำนวณค่าธรรมเนียมให้อัตโนมัติ
  6. ตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ เรียบร้อย คลิก >> ส่งเรื่อง
  7. เข้าสู่ระบบการชำระเงิน โดยมีช่องทางให้เลือกคือ บัตรเครดิต / บัตรเดบิต / Internet Banking / เคาท์เตอร์ธนาคาร และ เคาท์เตอร์เซอร์วิส เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับการเตรียมตัวในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหมคะ อีกทั้งการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ายังมีประโยชน์มาก ๆ ต่อธุรกิจของร้านค้าเองด้วย และท่านที่ทำธุรกิจยังต้องให้ความสำคัญกับการจดทะเบียนพาณิชย์ อีกด้วยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อเจ้าของร้านค้าทุกคน รวมถึงเพื่อน ๆ ที่อยากเริ่มต้นทำแบรนด์ของตัวเองนะคะ หากเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ก็สามารถแชร์ไปให้เพื่อน หรือคนรอบตัวได้เลยเรายังมีบทความแนะนำสำหรับแม่ค้ามือใหม่มากมาย เช่น ตั้งชื่อร้านให้รวย วีธีการสร้างเพจขายของ เป็นต้น อย่าลืมติดตามการอัปเดตสาระธุรกิจดี ๆ จาก PUNDAI ต่อไปนะคะ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

จดทะเบียนแบรนด์สินค้า เพื่ออะไร

เพื่อประโยชน์ทางกฎหมายไม่ให้มีผู้ใดมาทำซ้ำ ลอกเลียน หรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ประโยชน์ทางธุรกิจที่ช่วยสร้าง Branding ให้ตัวสินค้า

ตรวจสอบเครื่องหมายการค้า ที่ไหน

สามารถเข้าไปขอค้นที่สำนักงานกรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือ เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา

จดเครื่องหมายการค้า ที่ไหน

สำนักงานกรมทรัพย์สินทางปัญญา / สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัด / เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา และสามารถขอจดทางไปรษณีย์ได้

ADD LINE เพื่อเริ่มใช้ PUNDAI

คุณก็สามารถใช้ PUNDAI โดยไม่มีอะไรซับซ้อน ด้วยการแอดไลน์และเริ่มใช้งานได้ทันที หรือกด เรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับบทบาทของผู้ใช้งาน เพื่อศึกษาบทบาทของเรา