“ขายดีจนเจ๊ง!!” เคยได้ยินประโยคนี้กันไหมคะ บอกเลยว่าเกินจริงนะ เห็นขายดีแต่ไม่มีการรู้จักลดต้นทุนก็มีสิทธิเจ๊งเหมือนกันน้า เพราะทุกการขายมักมีค่าดำเนินการต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น และไม่มีข้อการันตีว่ายิ่งขายดีจะยิ่งรวยหากเราคำนวณต้นทุนไม่ถูกตั้งแต่แรก บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจให้ดี ยิ่งไปกว่านั้นการรู้จักลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตยังมีส่วนให้ธุรกิจแข็งแรงมากขึ้นด้วย ว่าแต่จะทำยังไงถึงจะดีล่ะ มาอ่านต่อกันเลย!
การลดต้นทุน คืออะไร?
การลดต้นทุน หมายถึงกระบวนการลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจหรือองค์กร โดยไม่ลดทอนคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ต้องการวางจำหน่ายให้กับลูกค้า
ตัวอย่างวิธีลดต้นทุนธุรกิจที่เคยมีการใช้งานจริงแล้วในประเทศไทย คือการใช้มาตรการประหยัดพลังงาน เช่น การใช้ไฟ LED และการอัปเกรดอุปกรณ์เพื่อลดการใช้ไฟฟ้า ธุรกิจจำนวนมากในประเทศไทยใช้สิ่งนี้เพื่อลดค่าพลังงานและเพิ่มผลกำไรของตัวเอง
Action Plan ลดต้นทุนคืออะไร?
แผนลดต้นทุน ภาษาอังกฤษ : Action Plan คือ แผนปฏิบัติการเพื่อลดต้นทุน เพิ่มกำไรที่เกี่ยวข้องและดำเนินการเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นเกิดขึ้น โดยขั้นตอนในการสร้างแผนปฏิบัติการมีดังนี้
1. ระบุส่วนของค่าใช้จ่ายส่วนที่สูง เช่น ค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่า หรือค่าวัสดุ
2. วิเคราะห์ค่าใช้จ่ายเพื่อดูว่าค่าใช้จ่ายใดสามารถลดได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อธุรกิจ
3. พัฒนาแผนเพื่อลดหรือขจัดค่าใช้จ่ายเหล่านั้น เช่น การเจรจาสัญญาใหม่หรือการหาซัพพลายเออร์ที่ถูกกว่า
4. นำแผนไปใช้และติดตามผลเพื่อให้แน่ใจว่าประหยัดต้นทุนได้ตามที่วางแผนไว้
5. ปรับแผนตามความจำเป็นเพื่อลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องในขณะที่รักษาคุณภาพของสินค้าหรือบริการไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
แนวทางการลดต้นทุน มีกี่วิธี อะไรบ้าง?
มีหลายวิธีในการลดต้นทุน เพิ่มกำไรในธุรกิจ ดังต่อไปนี้
1. เจรจากับซัพพลายเออร์
วิธีลดต้นทุนการผลิตวิธีหนึ่งที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ๆ คือการเจรจากับซัพพลายเออร์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการคุณขอส่วนลดหรือเงื่อนไขการชำระเงินที่ดีกว่าได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากกว่าที่คิด รวมไปถึงการขนส่งที่อาจจะรวดเร็วมากขึ้นทำให้การจำหน่ายสินค้าเป็นไปด้วยดีมากยิ่งขึ้น ใครที่เอาแต่กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าเจรจาต่อรอง บอกเลยว่าพลาด!
เรียนรู้กลยุทธ์การเจรจาธุรกิจแบบมีชั้นเชิงช่วยปิดดีลได้ง่ายขึ้น ต้องบทนี้เลย: กลยุทธ์ที่คุณอาจไม่รู้! สำหรับการปิดการขายกับลูกค้าทุกกลุ่ม
2. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ตรวจสอบค่าใช้จ่ายของคุณและดูว่ามีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นที่สามารถตัดออกได้หรือไม่ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์สำนักงานได้โดยการเปลี่ยนไปใช้เอกสารแบบไร้กระดาษและแปลงเป็นดิจิทัลแทน เป็นต้น ซึ่งนี่เป็นวิธีลดต้นทุนที่ง่ายและได้รับความนิยมอย่างมาก
3. ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยงาน
เทคโนโลยีสามารถช่วยให้คุณทำงานอัตโนมัติและเป็นการลดต้นทุนแรงงานได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์บัญชีเพื่อจัดการการเงินของคุณ หรือใช้ซอฟต์แวร์การจัดการโครงการเพื่อปรับปรุงขั้นตอนการทำงานของคุณแทนที่จะใช้ทรัพยากรบุคคล หรืออย่างในตอนนี้ที่ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น คุณก็ควรศึกษาการทำงานของมันและนำมาช่วยในการทำงานให้ประหยัดเวลาและต้นทุนได้
4. งานเอาท์ซอร์ส
งานเอาท์ซอร์สสามารถช่วยคุณประหยัดเงินค่าแรงงานได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถว่าจ้างฝ่ายบริการลูกค้าหรืองานบัญชีให้จากผู้ให้บริการภายนอก (ฟรีแลนซ์) แทนการว่าจ้างพนักงานประจำได้
5. ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางปฏิบัติด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าสาธารณูปโภคได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ LED หรือใช้เซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวเพื่อปิดไฟเมื่อไม่มีใครอยู่ในห้องก็สามารถช่วยประหยัดงบค่าใช้จ่ายไปได้เยอะจนคุณทึ่งเลยล่ะ
ข้อดีของการใช้กลยุทธ์ ลดต้นทุน
กลยุทธ์ลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่ายในธุรกิจมีข้อดีหลายประการ ดังต่อไปนี้
1. ช่วยเพิ่มผลกำไร
การลดค่าใช้จ่าย แต่ไม่ได้ลดผลผลิตที่ได้นั้นทำให้ต้นทุนต่ำลง นั่นหมายถึงกำไรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้มีกลยุทธ์ด้านราคาที่สามารถแข่งขันได้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นและเพิ่มยอดขายได้นั่นเอง
2. ช่วยปรับปรุงเสถียรภาพทางการเงินของธุรกิจ
การลดค่าใช้จ่ายทำให้ธุรกิจสามารถสร้างกระแสเงินสดได้มากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อโอกาสในการเติบโตหรือชำระหนี้ได้มากขึ้นตามไปด้วย
3. ช่วยปรับปรุงคุณภาพของสินค้าหรือบริการ
ด้วยการลดของเสียและปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตนั้นเอง ธุรกิจจึงสามารถผลิตสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยรวมแล้ว ข้อดีของการลดต้นทุนในธุรกิจสามารถนำไปสู่การเพิ่มผลกำไร ความมั่นคงทางการเงิน และความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมั่งคั่งและยั่งยืน
PUNDAI ตัวช่วยลดต้นทุน ด้วยการทำการตลาดแบบ Affiliate
สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากหาไอเดียลดต้นทุนด้านการตลาด PUNDAI เป็นเครื่องมือช่วยทำการตลาดแบบ Affiliate ที่เหมาะสมกับคุณมาก ๆ เลย เพราะนี่เป็นเครื่องมือที่ช่วยทำ Affiliate Marketing ซึ่งเป็นการตลาดแบบปากต่อปากทรงพลัง ที่มีงานวิจัยออกมารองรับแล้วด้วยว่าช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นเครื่องมือที่ใช้งบการตลาดต่ำมาก ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียค่าจ้างพรีเซนเตอร์ หรือจ้าง KOL อินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ แต่ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดีนักไปเลย เพราะลักษณะการทำงานของปันได้คือการเปิดโอกาสให้ใครก็ตามเป็นตัวแทนช่วยขายสินค้าให้กับเรา เมื่อขายได้ก็ทำการจ่ายเป็นค่าคอมมิชชันตาม % ที่เรากำหนดไว้ ไม่ต้องมีข้อผูกมัดใด ๆ
ใครที่รู้สึกสนใจอยากมาเปิดร้านบน PUNDAI สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่ LINE Official: @pundaiofficial ได้เลยน้า รับรองว่ายอดขายเพิ่มขึ้นแน่นอน
บทความแนะนำ
- ขั้นตอนการจดทะเบียนร้านค้าปลีก ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง เตรียมตัวยังไง อัปเดต2022!!
- 10 เทคนิคเปิดร้านออนไลน์ขายสกินแคร์ ยังไงให้ปังภายใน 6 เดือน
- 7 แอพแต่งรูปขายของ แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ตัวจริงต้องมี
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การลดต้นทุน มีข้อดีอย่างไร
1. ความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
2. ความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น
4. ความยืดหยุ่นการลงทุนที่เพิ่มขึ้น
5. ปรับปรุงกระแสเงินสด