ต้องยอมรับว่าการขายของออนไลน์รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์นั้นไม่ได้เป็นทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็นทางรอดของคนในยุคนี้ด้วย หลายคนคงคุ้นเคยกับคำว่า “ตัวแทนจำหน่าย” เป็นอย่างดี แต่เมื่อพูดถึงการทำ Dropship หลายคนอาจเริ่มสับสนว่าคืออะไรกันแน่ ใช่แบบเดียวกันกับการเป็นตัวแทนจำหน่ายไหม มีข้อดีอย่างไรบ้างทำไมใคร ๆ ก็นิยมทำ Dropship เป็นอาชีพเสริม สุดท้ายแล้วอาชีพนี้จะดีอย่างที่คิดหรือไม่ มาหาคำตอบในบทความนี้กันค่ะ
การทำ dropship คืออะไร

การขายแบบ dropship คือ การขายของออนไลน์ที่เราเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับซัพพลายเออร์ต่าง ๆ ที่เราสนใจเข้าไปสมัคร เมื่อเป็นตัวแทนแล้วเราสามารถใช้ภาพและโลโก้ในการโปรโมทสินค้าเพื่อรับออเดอร์จากลูกค้าได้ทันที โดยที่มีข้อดีคือเราไม่ต้องจ่ายเงินลงทุนสต๊อกสินค้าเอาไว้ก่อน แค่รอให้ลูกค้าทำการสั่งซื้อเข้ามา จากนั้นค่อยไปติดต่อให้ซัพพลายเออร์เป็นผู้จัดส่งสินค้าให้แค่นั้นเอง
ความสำคัญของDropshipping คืออะไร

ความสำคัญของธุรกิจ dropship คือ สามารถขายสินค้าได้โดยไม่ต้องจ้างเซลล์ประจำแล้วเสียค่าจ้างในทุกเดือน เพียงแค่ให้ตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้เปิดและปิดการขายให้เราเท่านั้น และไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันเนื่องจากตัวแทนจำหน่ายได้ทำการบวกกำไรเข้าไปตอนที่เปิดการขายเอาไว้แล้วนั่นเอง ซึ่งการทำ Dropship จึงเป็นการทำการตลาดแบบวิน-วิน ที่ช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายไม่ต้องลงทุนแต่ก็มีรายได้เพียงแค่การเป็นนายหน้าแนะนำสินค้าเท่านั้น ส่วนร้านค้าก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่ได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นเหมาะสำหรับคนที่อยากเป็นตัวแทนขายของออนไลน์แต่ไม่มีต้นทุน
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจทำธุรกิจออนไลน์ ทาง PUNDAI ของเราพร้อมนำเสนอสาระดี ๆ ด้านการทำการตลาดออนไลน์ และให้ความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ที่สร้างความเชื่อมั่นและรายได้
ข้อดีของการทำระบบ dropship คืออะไรบ้าง

- ไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ
สำหรับใครที่อยากหารายได้เสริมแต่ไม่อยากลงทุนเพิ่ม การทำ Dropship ถือเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีมาก เนื่องจากเราไม่ต้องเสียเงินซื้อของมาสต๊อกของไว้ก่อน โดยสินค้า dropship ในไทยก็มีให้เลือกมากมาย หากซัพพลายเออร์ที่เราสมัครไว้ไม่มีข้อผูกมัด ก็สามารถไปสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ากับซัพพลายเออร์เจ้าอื่น ๆ ได้เพื่อให้สามารถขายสินค้าได้อย่างหลากหลายมากขึ้น
- ความเสี่ยงน้อยมาก
เนื่องด้วยเราไม่ต้องสต๊อกสินค้า หากขายไม่ได้ก็ถือว่าไม่ขาดทุน อีกทั้งสินค้าที่เลือกหากมีชื่อเสียงอยู่แล้วก็ยิ่งขายได้ง่าย ไม่ต้องลงทุนไปสร้างการรับรู้แบรนด์ด้วยตัวเอง
- ทำง่าย ใครก็ทำได้
ขั้นตอนการทำ Dropship นั้นไม่ยุ่งยากเพียงแค่ลงรูปพร้อมแคปชั่นรายละเอียดสินค้าเท่านั้นก็สามารถขายสินค้าได้แล้ว นักเรียนนักศึกษาอยากหารายได้เสริมก็สามารถทำได้เช่นกัน
- ไม่ต้องแพ็คของ ไม่ต้องส่งของเอง
หลายคนไม่อยากขายของออนไลน์เพราะเบื่อที่ต้องมานั่งแพ็คของนี่แหละ แต่การทำ Dropship ดีกว่ามาก เนื่องจากเมื่อมีลูกค้าสั่งของเข้ามา หน้าที่ของเราเพียงแค่แจ้งออเดอร์ไปยังซัพพลายเออร์ พร้อมบอกที่อยู่ในการจัดส่ง เท่านี้ก็สามารถปิดการขายได้แล้ว ง่ายสุด ๆ
ข้อเสียของการเป็นตัวแทน dropship คืออะไร

- หากสินค้าไม่ดีจริง เราจะเสียความน่าเชื่อถือ
หากเราไม่ได้ขายสินค้าที่ดีจริงอย่างที่เราโปรโมทไว้ แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือของเราจะลดน้อยลงไป ซึ่งอาจส่งผลเสียตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงใหญ่มาก หากสินค้านั้นเป็นสินค้าที่เป็นอันตรายด้วยแล้ว เราอาจโดนดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
- การแข่งขันทางการตลาดสูง
เนื่องจากเริ่มต้นง่าย ใคร ๆ ก็ทำได้ทำให้มีคู่แข่งจำนวนมาก ทำให้เราต้องสร้างตัวตนที่แตกต่างเพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ และไว้วางใจในการออเดอร์กับเรา
- ไม่สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้
เวลาที่ลูกค้าใช้สินค้าที่เราลงขายไปแล้วไม่พอใจ หรืออยากวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนใหญ่แล้วเขาก็จะบอกกับเราโดยตรง แต่ปัญหาเหล่านั้นเราไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากเป็นหน้าที่ของเจ้าของแบรนด์
ขั้นตอนขายสินค้าแบบ dropship คืออะไร

เพื่อน ๆ ที่รู้สึกว่าการทำ Dropship นั้นน่าสนใจ อยากจะรู้ว่าการทำนั้นต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
- ค้นหาซัพพลายเออร์ว่าจะทำDropship ที่ไหนดี โดยอาจเลือกจากเจ้าที่เปิดรับตัวแทนจำหน่าย
- เลือกสินค้าที่ต้องการขาย Dropship ขายอะไรดี เราควรดูรีวิวสินค้านั้น ๆ ก่อนเสมอ หรือเพื่อให้แน่ใจควรลองสั่งสินค้ามาทดลองใช้ก่อน จากนั้นกดสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายได้เลย
- เข้าไปเก็บภาพ ข้อมูล ข้อความที่ซัพพลายเออร์ได้ส่งเอาไว้ให้ในช่องทางสำหรับตัวแทนจำหน่าย
- เปิดร้านออนไลน์ของตัวเอง จากนั้นนำภาพและข้อมูลมาลงไว้ เพื่อเป็นการโปรโมทสินค้า
- เมื่อลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าเข้ามา ก็ส่งรายการคำสั่งซื้อนั้นไปยังซัพพลายเออร์เพื่อให้จัดส่งสินค้าต่อไป
- ซัพพลายเออร์จะทำการส่งสินค้าภายใต้นามของตัวแทนจำหน่าย
การทำ Dropship นั้นเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันเนื่องจากเริ่มต้นได้ง่าย ไม่ต้องเสี่ยงลงทุนเยอะ ไม่ต้องสต๊อกของ หน้าที่ของตัวแทนเพียงแค่เป็นนายหน้าช่วยขายสินค้าเท่านั้น ซึ่งคุณได้ทราบถึงข้อดี-ข้อเสียของการทำ Dropship ไปแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น รวมถึงใครก็ตามที่อยากหารายได้เสริมจากออนไลน์ ก็ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจมาก ๆ อีกไอเดียหนึ่งเลย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Dropship ที่ไหนดี
การเลือกซัพพลายเออร์ที่ดีนั้นควรอ่านรีวิวและศึกษาการทำงานอย่างละเอียดก่อน ตัวอย่างรายชื่อซัพพลายเออร์ที่มีชื่อเสียง เช่น ShopBob / Salehoo / Aliexpress
Dropship ข้อดี ข้อเสีย
ข้อดีของการทำ Dropship คือ ไม่ต้องเสียเงินลงทุนเยอะ / เริ่มต้นง่าย / ใช้เวลาไม่เยอะ
ข้อเสียของการทำ Dropship คือ การแข่งขันสูง / ไม่สามารถควบคุมสินค้าได้ / หากสินค้าไม่ดีเสี่ยงเสียชื่อเสียง