ไม่อยากพลาดต้องรู้! Dropship คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นกระแส

เนื้อหาบทความนี้

ต้องยอมรับว่าการขายของออนไลน์รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์นั้นไม่ได้เป็นทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็นทางรอดของคนในยุคนี้ด้วย หลายคนคงคุ้นเคยกับคำว่า “ตัวแทนจำหน่าย” เป็นอย่างดี แต่เมื่อพูดถึงการทำ Dropship หลายคนอาจเริ่มสับสนว่าคืออะไรกันแน่ ใช่แบบเดียวกันกับการเป็นตัวแทนจำหน่ายไหม มีข้อดีอย่างไรบ้างทำไมใคร ๆ ก็นิยมทำ Dropship เป็นอาชีพเสริม สุดท้ายแล้วอาชีพนี้จะดีอย่างที่คิดหรือไม่ มาหาคำตอบในบทความนี้กันค่ะ

การทำ dropship คืออะไร

การขายแบบ dropship คือ การขายของออนไลน์ที่เราเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับซัพพลายเออร์ต่าง ๆ ที่เราสนใจเข้าไปสมัคร เมื่อเป็นตัวแทนแล้วเราสามารถใช้ภาพและโลโก้ในการโปรโมทสินค้าเพื่อรับออเดอร์จากลูกค้าได้ทันที โดยที่มีข้อดีคือเราไม่ต้องจ่ายเงินลงทุนสต๊อกสินค้าเอาไว้ก่อน แค่รอให้ลูกค้าทำการสั่งซื้อเข้ามา จากนั้นค่อยไปติดต่อให้ซัพพลายเออร์เป็นผู้จัดส่งสินค้าให้แค่นั้นเอง

ความสำคัญของDropshipping คืออะไร

ความสำคัญของธุรกิจ dropship คือ สามารถขายสินค้าได้โดยไม่ต้องจ้างเซลล์ประจำแล้วเสียค่าจ้างในทุกเดือน เพียงแค่ให้ตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้เปิดและปิดการขายให้เราเท่านั้น และไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันเนื่องจากตัวแทนจำหน่ายได้ทำการบวกกำไรเข้าไปตอนที่เปิดการขายเอาไว้แล้วนั่นเอง ซึ่งการทำ Dropship จึงเป็นการทำการตลาดแบบวิน-วิน ที่ช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายไม่ต้องลงทุนแต่ก็มีรายได้เพียงแค่การเป็นนายหน้าแนะนำสินค้าเท่านั้น ส่วนร้านค้าก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่ได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นเหมาะสำหรับคนที่อยากเป็นตัวแทนขายของออนไลน์แต่ไม่มีต้นทุน

สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจทำธุรกิจออนไลน์ ทาง PUNDAI ของเราพร้อมนำเสนอสาระดี ๆ ด้านการทำการตลาดออนไลน์ และให้ความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ที่สร้างความเชื่อมั่นและรายได้

ข้อดีของการทำระบบ dropship คืออะไรบ้าง

  1. ไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ

สำหรับใครที่อยากหารายได้เสริมแต่ไม่อยากลงทุนเพิ่ม การทำ Dropship ถือเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีมาก เนื่องจากเราไม่ต้องเสียเงินซื้อของมาสต๊อกของไว้ก่อน โดยสินค้า dropship ในไทยก็มีให้เลือกมากมาย หากซัพพลายเออร์ที่เราสมัครไว้ไม่มีข้อผูกมัด ก็สามารถไปสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ากับซัพพลายเออร์เจ้าอื่น ๆ ได้เพื่อให้สามารถขายสินค้าได้อย่างหลากหลายมากขึ้น

  1. ความเสี่ยงน้อยมาก

เนื่องด้วยเราไม่ต้องสต๊อกสินค้า หากขายไม่ได้ก็ถือว่าไม่ขาดทุน อีกทั้งสินค้าที่เลือกหากมีชื่อเสียงอยู่แล้วก็ยิ่งขายได้ง่าย ไม่ต้องลงทุนไปสร้างการรับรู้แบรนด์ด้วยตัวเอง

  1. ทำง่าย ใครก็ทำได้

ขั้นตอนการทำ Dropship นั้นไม่ยุ่งยากเพียงแค่ลงรูปพร้อมแคปชั่นรายละเอียดสินค้าเท่านั้นก็สามารถขายสินค้าได้แล้ว นักเรียนนักศึกษาอยากหารายได้เสริมก็สามารถทำได้เช่นกัน

  1. ไม่ต้องแพ็คของ ไม่ต้องส่งของเอง

หลายคนไม่อยากขายของออนไลน์เพราะเบื่อที่ต้องมานั่งแพ็คของนี่แหละ แต่การทำ Dropship ดีกว่ามาก เนื่องจากเมื่อมีลูกค้าสั่งของเข้ามา หน้าที่ของเราเพียงแค่แจ้งออเดอร์ไปยังซัพพลายเออร์ พร้อมบอกที่อยู่ในการจัดส่ง เท่านี้ก็สามารถปิดการขายได้แล้ว ง่ายสุด ๆ 

ข้อเสียของการเป็นตัวแทน dropship คืออะไร

  1. หากสินค้าไม่ดีจริง เราจะเสียความน่าเชื่อถือ

หากเราไม่ได้ขายสินค้าที่ดีจริงอย่างที่เราโปรโมทไว้ แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือของเราจะลดน้อยลงไป ซึ่งอาจส่งผลเสียตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงใหญ่มาก หากสินค้านั้นเป็นสินค้าที่เป็นอันตรายด้วยแล้ว เราอาจโดนดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

  1. การแข่งขันทางการตลาดสูง

เนื่องจากเริ่มต้นง่าย ใคร ๆ ก็ทำได้ทำให้มีคู่แข่งจำนวนมาก ทำให้เราต้องสร้างตัวตนที่แตกต่างเพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ และไว้วางใจในการออเดอร์กับเรา

  1. ไม่สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้

เวลาที่ลูกค้าใช้สินค้าที่เราลงขายไปแล้วไม่พอใจ หรืออยากวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนใหญ่แล้วเขาก็จะบอกกับเราโดยตรง แต่ปัญหาเหล่านั้นเราไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากเป็นหน้าที่ของเจ้าของแบรนด์

ขั้นตอนขายสินค้าแบบ dropship คืออะไร

เพื่อน ๆ ที่รู้สึกว่าการทำ Dropship นั้นน่าสนใจ อยากจะรู้ว่าการทำนั้นต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

  1. ค้นหาซัพพลายเออร์ว่าจะทำDropship ที่ไหนดี โดยอาจเลือกจากเจ้าที่เปิดรับตัวแทนจำหน่าย
  2. เลือกสินค้าที่ต้องการขาย Dropship ขายอะไรดี เราควรดูรีวิวสินค้านั้น ๆ ก่อนเสมอ หรือเพื่อให้แน่ใจควรลองสั่งสินค้ามาทดลองใช้ก่อน จากนั้นกดสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายได้เลย
  3. เข้าไปเก็บภาพ ข้อมูล ข้อความที่ซัพพลายเออร์ได้ส่งเอาไว้ให้ในช่องทางสำหรับตัวแทนจำหน่าย
  4. เปิดร้านออนไลน์ของตัวเอง จากนั้นนำภาพและข้อมูลมาลงไว้ เพื่อเป็นการโปรโมทสินค้า
  5. เมื่อลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าเข้ามา ก็ส่งรายการคำสั่งซื้อนั้นไปยังซัพพลายเออร์เพื่อให้จัดส่งสินค้าต่อไป
  6. ซัพพลายเออร์จะทำการส่งสินค้าภายใต้นามของตัวแทนจำหน่าย

การทำ Dropship นั้นเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันเนื่องจากเริ่มต้นได้ง่าย ไม่ต้องเสี่ยงลงทุนเยอะ ไม่ต้องสต๊อกของ หน้าที่ของตัวแทนเพียงแค่เป็นนายหน้าช่วยขายสินค้าเท่านั้น ซึ่งคุณได้ทราบถึงข้อดี-ข้อเสียของการทำ Dropship ไปแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น รวมถึงใครก็ตามที่อยากหารายได้เสริมจากออนไลน์ ก็ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจมาก  ๆ อีกไอเดียหนึ่งเลย

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Dropship ที่ไหนดี

การเลือกซัพพลายเออร์ที่ดีนั้นควรอ่านรีวิวและศึกษาการทำงานอย่างละเอียดก่อน ตัวอย่างรายชื่อซัพพลายเออร์ที่มีชื่อเสียง เช่น ShopBob / Salehoo / Aliexpress

Dropship ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดีของการทำ Dropship คือ ไม่ต้องเสียเงินลงทุนเยอะ / เริ่มต้นง่าย / ใช้เวลาไม่เยอะ

ข้อเสียของการทำ Dropship คือ การแข่งขันสูง / ไม่สามารถควบคุมสินค้าได้ / หากสินค้าไม่ดีเสี่ยงเสียชื่อเสียง

ADD LINE เพื่อเริ่มใช้ PUNDAI

คุณก็สามารถใช้ PUNDAI โดยไม่มีอะไรซับซ้อน ด้วยการแอดไลน์และเริ่มใช้งานได้ทันที หรือกด เรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับบทบาทของผู้ใช้งาน เพื่อศึกษาบทบาทของเรา