กำลังมองหาวิธีที่จะยกระดับธุรกิจของคุณไปอีกขั้นหรือไม่? การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา ด้วยการใช้ประโยชน์จากพลังของ Influencer ในโซเชียลมีเดีย ร้านค้าต่าง ๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นและพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตน ในบทความนี้จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับข้อดีของการทำ Influencer Marketing ให้ลึกลงไปมากขึ้น
Influencer Content Marketing คืออะไร?
Influencer Marketing คือ การตลาดออนไลน์ที่ใช้บุคคลที่มีอิทธิพลและผู้ติดตามจำนวนมากบนสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กในการโฆษณาและโปรโมตสินค้าหรือบริการของร้านค้า โดยให้ Influencer เป็นตัวกลางในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างความสนใจและสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์หรือสินค้านั้น ๆ โดยรูปแบบของคอนเทนต์ที่นำเสนอจะเป็นไปตามแนวทางของช่องหรือสไตล์ของ Influencer แต่ละคน โดยร้านค้าอาจกำหนดกรอบความต้องการที่จะบรีฟให้โดยตรง
ยังไม่รู้ว่าจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายยังไง อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่: ค้นหากลุ่มเป้าหมายตามการวิเคราะห์ตลาด ช่วยให้ทำ Affiliate Marketing ง่ายขึ้น
ประเภทของ Influencer ตามลักษณะที่ส่งอิทธิพล
กลยุทธ์ Influencer Marketing มีหลักการที่เน้นการโปรโมตสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้าง Brand Awareness และเสริมภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ โดยใช้อิทธิพลจาก Influencer เป็นหลักซึ่งการเลือก Influencer ให้เหมาะสมและตอบโจทย์นับเป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นจึงควรรู้ก่อนว่าInfluencer Marketing มีกี่ประเภทกันนะ
1. The Celebrity (เซเลป ดารา คนมีชื่อเสียง)
Influencer กลุ่มนี้จะเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก อาจเทียบเท่าได้กับ Macro Influencer ซึ่งสามารถทำยอด Reach ผู้คนจำนวนมากได้ แต่อาจจะไม่ดีกับแบรนด์ร้านค้ามากนักเพราะผู้ติดตามไม่ได้เป็นกลุ่มเฉพาะคนที่มีความต้องการคล้าย ๆ กัน
2. The Authority (KOL ผู้นำความคิด)
Influencer กลุ่มนี้เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลและความเชี่ยวชาญอย่างมากในสาขาหรืออุตสาหกรรมเฉพาะ และสามารถโน้มน้าวการตัดสินใจซื้อของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครือข่ายสังคมและอาชีพของพวกเขา ทำให้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการเลือกสินค้าและแบรนด์
3. The Connector (คนหรือเพจที่แชร์คอนเทนต์หลากหลายประเด็น)
Influencer กลุ่มนี้ลักษณะเด่นส่วนใหญ่จะเป็นเพจที่ไม่ได้เล่าเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ แต่จะหยิบยกประเด็นที่กำลังเป็นไวรัลมาพูดถึง รวมถึงการแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ผู้ติดตามส่วนมากจะชอบสไตล์และลีลาการเล่าเรื่องของเพจกลุ่มนี้ ด้วยเหตุผลที่อาจจะรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน อ่านเข้าใจง่าย หรืออ่านแล้วสนุกสนาน
4. The Personal Branding (ปั้นตัวเองเป็นแบรนด์)
Influencer กลุ่มนี้จะเป็นการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ เช่น คนที่แชร์ความรู้เรื่องการพัฒนาตัวเอง, คนที่รักการออกกำลังกาย, คนที่ชอบรีวิวหนังสือ ซึ่งหากเป็นคนที่สร้าง Personal Branding ได้น่าสนใจก็มักจะได้รับการร่วมงานให้โปรโมตสินค้าเพื่อเพิ่ม Brand Awareness ให้แต่ละแบรนด์ได้ มักมีผลดีกับสินค้าที่อยู่ใน Niche Market ที่ต้องการแก้ไข Pain Point ของกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด
5. The Analyst (คนหรือเพจที่ชอบวิเคราะห์ข้อมูล)
The Analyst สำหรับ Influencer Marketing หมายถึงกลุ่ม Influencer ที่เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแบบค่อนข้างเจาะลึก รวมถึงพูดถึง Insight ต่าง ๆ ที่สื่ออื่นอาจไม่มี ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ที่อยากรู้ความตื้นลึกหนาบางของเหตุการณ์สำคัญต่างมักจะเลือกชมจากกลุ่มนี้เป็นหลัก
6. The Activist (นักเคลื่อนไหวทางสังคม)
นักเคลื่อนไหวทางสังคม คือ กลุ่มคนที่เลือกทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามอุดมการณ์ความเชื่ออย่างตั้งมั่น ทำให้แบรนด์ร้านค้าที่เลือกให้พวกเขาเป็นคนช่วยโปรโมตสินค้ามักจะได้ Engagement ที่ยอดเยี่ยมได้อย่างแน่นอน
7. The Expert (ผู้เชี่ยวชาญ)
Influencer กลุ่มนี้จะมีความรู้ความชำนาญในด้านที่ตัวเองสนใจอย่างลึกซึ้ง มีความน่าเชื่อถือสูงมาก ทำให้ผู้ติดตามเป็น Quality Audience ซึ่งเหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือและการยอมรับสูงมาก ๆ ในการทำInfluencer Marketing ที่ดี
8. The Insider (สายข่าววงใน)
กลุ่ม Influencer นี้จะมีความคล้ายคลึงกับ The Expert แต่เข้าถึงได้ง่ายกว่าและรู้ข่าวสารการเคลื่อนไหวในวงการที่ผู้ติดตามสนใจได้ดี เช่น กูรูนางงาม ที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทการประกวดและเป็นวงในของการประกวดนั้น ๆ
9. The Agitator (คนหรือเพจที่ถกเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ)
Influencer กลุ่มนี้มักทำการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม ทำให้เรียกกระแสความสนใจของผู้คนได้เป็นจำนวนมาก การที่ร้านค้าจะร่วมงานกับผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้จะได้ยอดการเข้าถึงจำนวนมาก แต่ต้องระวังการสวนกระแสโต้กลับของกลุ่มผู้ติดตาม รวมถึงอาจสูญเสียภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ได้
10. The Journalist (คนหรือเพจที่แชร์ข่าวหรือสาระต่าง ๆ)
คนหรือเพจที่มักทำ Value Contents ให้ความรู้เกี่ยวกับสาระต่าง ๆ บนช่องทางต่าง ๆ รวมไปถึงการแชร์ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับตัวเพจ เพจลักษณะนี้เหมาะกับการไปทำงาน Influencer Marketingที่เน้นการสร้าง Brand Awareness เป็นหลัก
Cr. ขอบคุณข้อมูลจาก Traackr
ข้อดี-ข้อเสียของการทำ Influencer Marketing
การทำ Digital Marketing หรือ การตลาดออนไลน์นั้นไม่ได้มีกลยุทธ์ใดที่ดี 100% เนื่องจากการตลาดแต่ละแบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกันออกไป โดย Influencer Marketing ข้อดีข้อเสียมีดังนี้
ข้อดีของการทำ Influencer Marketing
1. มีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่และมีเป้าหมายชัดเจน
2. ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นในแบรนด์
3. เนื้อหาที่มีความสมจริงและเข้าใจได้ง่ายมากกว่าการโฆษณาแบบเดิม
4. เป็นการตลาดที่มีเป้าหมายแน่นอนและมีผลลัพธ์ที่ติดตามได้ชัดเจน
5. การสร้างคอนเทนต์ของเหล่า Influencer สามารถช่วยสร้าง Impact ได้
ข้อเสียของการทำ Influencer Marketing
1. ต้องมีการลงทุนทางการเงิน
2. ควบคุมผลลัพธ์และการสร้างเนื้อหาได้น้อย
3. การวัดผลและการบริหารจัดการอาจเป็นที่ยาก
4. ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการทำงานกับ Influencer อาจมีมากกว่าการทำโฆษณาด้วยตัวร้านค้าเอง
5. การเจริญเติบโตของตลาดและปัญหาความน่าเชื่อถือของ Content
เทคนิคทำ Influencer Marketing ให้ประสบความสำเร็จ
1. กำหนดเป้าหมายและผู้ชมเป้าหมายของคุณ
ระบุสิ่งที่คุณต้องการบรรลุผ่านแคมเปญการตลาดที่มีอิทธิพลอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขายสินค้า สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ หรือเพิ่มผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย การทำความเข้าใจเป้าหมายของคุณจะช่วยให้คุณพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพได้
2. วิจัยและเลือก Influencer ที่เหมาะสม
ทำการวิจัยอย่างละเอียดเพื่อค้นหา Influencer ที่สอดคล้องกับคุณค่าแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายของคุณและมีความเชื่อมโยงอย่างแท้จริงกับผู้ติดตาม เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง และอัตราการมีส่วนร่วมที่ดี
3. ร่วมกันสร้างสรรค์คอนเทนต์
การที่คุณคอยควบคุมการทำงานของ Influencer อยู่อย่างต่อเนื่องจะมีส่วนช่วยให้งานที่ได้ออกมาตรงกับจุดมุ่งหมายของคุณมากขึ้น เนื่องจากคุณเป็นคนที่เข้าใจจุดมุ่งหมายและทิศทางของร้านค้ามากที่สุด ดังนั้นแล้วการสื่อสารให้เข้าใจกันในการทำInfluencer Marketing แปลว่า คุณกับ Influencer ต้องคุยเรื่องรายละเอียด เป้าหมายการทำคอนเทนต์ และสิ่งที่ต้องการจากคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้เข้าใจไปในทางเดียวกัน
4. ติดตามและวัดผล
สร้างตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) เพื่อติดตามความสำเร็จของแคมเปญการตลาดเช่น อัตราการมีส่วนร่วม การเข้าถึงและการกล่าวถึงแบรนด์ ใช้เครื่องมือติดตาม แพลตฟอร์มการวิเคราะห์ และโปรแกรมการตลาดแบบพันธมิตรเพื่อวัดผลกระทบของแคมเปญของคุณอย่างแม่นยำ เพื่อให้เห็นถึงจุดบกพร่อง จุดอ่อนในการพัฒนาต่อไปได้
5. ประเมินและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
ประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญผู้มีอิทธิพลของคุณเป็นประจำและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคต วิเคราะห์สิ่งที่ได้ผลดี ระบุจุดที่ต้องปรับปรุง และปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณตามนั้น ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงในแนวการตลาดที่ใช้ผู้มีอิทธิพลเพื่อก้าวนำหน้าคู่แข่ง
จากที่ได้ทราบกันแล้วว่า Influencer Marketing คืออะไร มีข้อดีอย่างไร สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทำการตลาดแบบพันธมิตร เน้นขายได้ด้วยการบอกต่อแบบเรียล ๆ บนโซเชียลแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ให้ PUNDAI สุดยอดเครื่องมือการตลาดแบบ Affiliate Marketing ช่วยให้คุณเปิดดีลและแชร์ให้เหล่า Influencer ช่วยโปรโมตได้เลย เพียงแอดไลน์มาที่ LINE Official: @pundaiofficial
บทความแนะนำ
- 5 เทคนิคโฆษณาสินค้าให้น่าสนใจ ใครเห็นก็อยากซื้อทันทีทันใด
- รู้จัก CRM คืออะไร มีข้อดียังไง สำคัญกับธุรกิจออนไลน์อย่างไรบ้าง
- วิธีเริ่มต้นขายของออนไลน์แบบจับมือทำ ทำตามนี้ขายดีชัวร์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ทำอย่างไรให้ Influencer Marketing ประสบความสำเร็จ
1. วางแผนอย่างชัดเจน
2. เลือก influencer ที่เหมาะสม
3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดี
4. ร่วมมือกับ influencer ในการสร้างเนื้อหา
5. วัดผลและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ