MLM Business คืออะไร ใช่แชร์ลูกโซ่หรือเปล่า? เจ้าของธุรกิจต้องรู้จัก

“ลงทุนแค่ 6,000 ภายใน 3 เดือน ได้ 15 ล้าน” นี่คือประโยคเด็ดจากแม่ทีมใหญ่ของแบรนด์สินค้าออนไลน์แบรนด์หนึ่ง ที่ถือว่ากระฉ่อนไปทั่วประเทศไทยอย่างรวดเร็ว และได้รับการตั้งข้อสงสัยมากมายว่าธุรกิจ MLM นี้คืออะไร ใช่แชร์ลูกโซ่ไหม ทำไมถึงมีความสำคัญกับการทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการอย่างมาก มีข้อดี-ข้อเสียหรือเปล่า ทำไมถึงกำลังเป็นการทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ในปัจจุบัน

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังอยากทำธุรกิจหรือหาตัวอย่างกลยุทธ์การตลาดออนไลน์คงเคยได้ยินคำว่า MLM Business มาแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจว่าตกลงว่าโครงสร้างและการทำงานของมันคืออะไร ผิดกฎหมายไหม ดีจริงหรือแค่คำอวดอ้าง บทความนี้ PUNDAI ได้รวบรวมข้อมูลมาย่อยให้อ่านง่าย กระชับ และครบถ้วน ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะ

Mlm business คืออะไร ?

Mlm ย่อ มา จาก Multilevel Marketing หมายถึง ธุรกิจขายตรงแบบหลายขั้น ซึ่งมีลักษณะแบบที่ผู้ซื้อสินค้าจะทำการขายสินค้านั้นเอง รวมถึงการทำการตลาดเองด้วย โดยจะเน้นไปที่การบอกในกลุ่มคนใกล้ตัว และทำการสร้างเครือข่ายขึ้นมา และจะได้รับผลตอบแทนจากส่วนหนึ่งของยอดขายของคนในเครือข่ายเพื่อเป็นแรงจูงใจในการขยายเครือข่ายต่อไปนั่นเอง

ซึ่งนับได้ว่าธุรกิจเครือข่ายนั้นเป็นอาชีพเสริมออนไลน์ ที่หารายได้อีกช่องทางที่หลาย ๆ คนมักจะเลือกทำกันเพราะสามารถทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำได้ และทำให้กระแสของธุรกิจเครือข่ายบูมขึ้นทุก ๆ ปี แต่การทำ MLM นั้นจะดีอย่างที่ใคร ๆ เขาว่ากันไหม เราจะพามาไขข้อสงสัยให้กระจ่างกันค่ะ

ข้อดี-ข้อเสียของธุรกิจ mlm คืออะไร?

ข้อดีของธุรกิจ mlm คือ อะไร

เสียเงินลงทุนต่ำเมื่อเทียบกับเปิดกิจการของตัวเองข้อได้เปรียบแรกที่ทำให้ใคร ๆ ก็หันไปสนใจทำ MLM คือ ไม่ต้องลงทุนเยอะมากนัก เพียงแค่เสียค่าสมัครสมาชิก ซื้อสินค้าไปขาย และทำการบอกต่อความดีงามของการขายเพื่อดึงคนเข้ามาในเครือข่ายของตัวเอง แล้วได้รับผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชันไปเรื่อย ๆ ตามผลงานความขยันของตัวเอง

ไม่ต้องทำระบบต่าง ๆ สำหรับธุรกิจให้ยุ่งยากการที่ทำธุรกิจเครือข่ายนั้นได้เปรียบการทำกิจการของตัวเองตรงที่คุณไม่ต้องไปจดทะเบียนบริษัท ไม่ต้องคอยทำบัญชี ไม่ต้องทำเรื่องเอกสารต่าง ๆ แน่นอนว่าไม่ต้องมาปวดหัวกับการวางแผนการตลาดต่าง ๆ นานา เพราะระบบพวกนั้นเป็นระบบสำเร็จรูปเรียบร้อยแล้วในการตลาดแบบ MLM ถือว่าจุดนี้ก็ทำให้นักธุรกิจมือใหม่ที่ยังไม่อยากดำเนินการธุรกิจแบบยุ่งยาก เลือกเข้าไปทำ MLM กัน

ได้ฝึกสกิลการบริหารคนเมื่อคุณได้เข้ามาในเครือข่ายเป็นคนแรก ถือว่าได้เป็น “อัพไลน์” ของเครือข่ายนั้น ๆ แน่นอนว่าคุณไม่ได้เป็นหัวหน้าโดยตำแหน่ง แต่ความชำนาญและประสบการณ์ในฐานะเจ้าของเครือข่ายที่คุณสร้างขึ้นมา จะทำให้คุณต้องรู้จักการบริหารคนให้มากขึ้น เพื่อการปั้นยอดขาย และขยายเครือข่ายให้ใหญ่มากขึ้นไปอีก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสกิลการโค้ช การให้คำปรึกษา และการวางแผนงานต่าง ๆ คุณจะมีโอกาสแสดงฝีมืออย่างเต็มที่ในธุรกิจประเภทนี้

ฝึกการเป็นผู้ประกอบการตอนที่เป็นลูกจ้างนั้นเราไม่เคยมากังวลว่าเดือนนี้จะได้ยอดขายเท่าไร เราแค่ทำงานในส่วนของเราเท่านั้น แต่เมื่อมาทำธุรกิจเครือข่ายของตัวเอง ยอดขายแต่ละเดือนจะไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นไปตาม Performance ของคนในทีมของเรา ส่วนเราในฐานะอัพไลน์ หากไม่ทำอะไรเลย ไม่ส่งเสริมทีม ไม่มีการวางแผนก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ จึงต้องอาศัยการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาวเหมือนกับเป็นผู้ประกอบการนั่นเอง

เป็นการทำธุรกิจที่ “ผู้ซื้อ” ได้เปรียบเนื่องจากราคาที่ขายนั้นเป็นราคาจากเจ้าของกิจการหรือแบรนด์นั้น ๆ ทำให้ราคาไม่ได้สูงมากนัก เนื่องจากไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง

ข้อเสียของ Mlm คือ อะ ไร

ช่วงแรกการหาดาวน์ไลน์อาจเป็นเรื่องลำบากแน่นอนว่าด้วย “ภาพลักษณ์” ที่ใครหลายคนสับสนระหว่าง MLM กับ แชร์ลูกโซ่ มักทำให้หลายคนมองอาชีพนี้ไม่ค่อยดีนัก พอจะไปขยายเครือข่ายด้วยการพูดว่าสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income เหมือนเสือนอนกินก็ยิ่งทำให้หลายคนที่ฟังมักจะเผ่นหนีกันให้วุ่น นั่นทำให้การหาสมาชิกมาร่วมเครือข่ายแรก ๆ นั้นค่อนข้างยาก

อาจโดนตัดราคากันเองเมื่อมีผู้ขายจำนวนมาก ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดน้อยลงเรื่อย ๆ การแข่งขันเพื่อแย่งลูกค้ากันจะมีเยอะมาก จนนำไปสู่การตัดราคากันเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดการสั่นครอนในเครือข่ายของตัวเองด้วย

สินค้าส่วนมากราคาแพง ทำให้ขายค่อนข้างยากสินค้าส่วนมากของธุรกิจ MLM มักจะมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้การขายและบอกต่ออาจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ยากจึงอาจทำให้เสียเวลาไปค่อนข้างเยอะในการหาลูกค้า

อาจมีการต่ออายุสมาชิกแล้วแต่ข้อกำหนดของบริษัทMLM Business บางบริษัทมีการต้องจ่ายค่าต่ออายุสมาชิก ทำให้เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเข้าไปอีก หลายคนไม่ได้ศึกษากฎระเบียบของแต่ละองค์กร

ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง กรณีถูกเลิกจ้างอาชีพอื่น ๆ เมื่อมีการบอกเลิกจ้าง เราจะได้รับการคุ้มครอง แต่ MLM Business ยังไม่มีกฎหมายใด เข้าไปควบคุมดูแล

Online mlm business คือ แชร์ลูกโซ่หรือเปล่า ?

แชร์ลูกโซ่ หรือ Ponzi Scheme คือ เกมการเงินแบบหนึ่งที่ผิดกฎหมาย ส่วน MLM แตกต่างจากแชร์ลูกโซ่ โดยลักษณะของแชร์ลูกโซ่จะเป็นการที่ “แม่ข่าย” ไปหา “ลูกข่าย” มาเป็นผู้ร่วมลงทุน โดยอ้างว่าเป็นการวางเงินแล้วกินดอกไปเรื่อย ๆ ในผลตอบแทนมหาศาลทำให้หลายคนที่อยากรวยเร็วหลงเชื่อได้ง่าย ซึ่งในตอนแรกมักจะได้เงินตอบแทนตามนั้นจริง โดยที่มาของเงินคือนำเงินจากลูกข่ายรายใหม่จ่ายให้รายเก่า จะดำเนินการไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหารายใหม่ไม่ได้ แชร์ก็ล้ม และเงินทั้งหมดก็ไหลเข้ากระเป๋าของแม่ข่าย ซึ่งได้หายเข้ากลีบเมฆเป็นที่เรียบร้อย

แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับธุรกิจเครือข่าย ที่เน้นการสร้างโครงสร้างเหมือนตาข่ายใยแมงมุม เน้นไปที่การขายสินค้าจริง กำไรที่ได้จะมาจากกำไรของสินค้าที่ได้ต่อเนื่องจากดาวน์ไลน์ไปหาอัพไลน์นั่นเอง

แชร์ลูกโซ่ที่บังหน้าด้วย Mlm คืออะไร ?

ถึงแม้ว่า MLM จะไม่เท่ากับ แชร์ลูกโซ่ก็จริง แต่ต้องยอมรับว่าการลงทุนทั้งสองรูปแบบมีส่วนที่คล้ายกันหลายมิติ ทำให้เหล่ามิจฉาชีพหัวใส คิดทำ “แชร์ลูกโซ่” โดยใช้ MLM Business บังหน้า โดยกระบวนการนี้จะคล้าย ๆ กันหมดดังนี้

1. แม่ข่ายเปิดตัว Product กับลูกข่ายในสังกัด ตอกย้ำว่าขายแล้วปัง ขายแล้วรวยแน่นอน “เราทำได้ คุณก็ทำได้”
2. ป้ายยาให้ลูกข่ายหลงเชื่อแล้วสั่งสต๊อกสินค้าไว้เยอะ ๆ เพราะยังไงก็คืนทุนไวแน่นอน
3. สร้างกระแสให้ตัว Product ใหม่ให้เร็วและเปรี้ยงที่สุด ทุ่มเงินไปกับการทำโฆษณาและโปรโมทเป็นหลัก ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ เหมาหมด 
4. เมื่อกระแสติดลมบนแล้วให้ทำการ “กักตุนสินค้า” ทำให้ของขาดตลาดทิพย์ คือ ทยอยส่งของให้ลูกข่ายและคนที่เพิ่งเข้ามาน้อย ๆ เหมือนกับว่าของขายดีมาก เพื่อไม่ให้คนรู้ความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง
5. บอกกับลูกข่ายว่าของขายดีมาก ขาดตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดกระแสอยู่ตลอด ตอนนี้ลูกข่ายจะยิ่งอยากได้สินค้ามาก
6. นำของรอบใหม่มาแล้ว เน้นขายได้จำนวนเยอะ ๆ โดยการทำโปรโมทว่าขายได้ยอดเท่านั้นเท่านี้จะได้ทอง ได้เที่ยวต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้ลูกข่ายอยากตุนสินค้าเยอะ ๆ 
7. จะเกิดสภาวะ “ของล้นตลาด” เนื่องจากปริมาณ Demand (ความต้องการของผู้บริโภค) < Supply (ความต้องการขาย)
8. แม่ข่ายหยุดดำเนินกิจการนี้ทันที และหายไปแบบติดต่อไม่ได้
9. ลูกข่ายเจอภาวะขายของไม่ออก ต้องจมทุน 
10. แม่ข่ายหายไปให้เรื่องเงียบแล้วกลับมาอีกครั้ง ทำวนลูปเช่นเดิม

PUNDAI เป็นธุรกิจ mlm หรือเปล่า ดีกว่ายังไง?

PUNDAI ไม่ใช่ธุรกิจ MLM ไม่ใช่การขายตรง  ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ แต่ PUNDAI เป็นเครื่องมือการตลาดแบบ affiliate แปลว่า การตลาดที่เน้นไปที่ “ความเชื่อใจ” “คุณภาพของสินค้า” “ความจริงใจ” ระหว่างผู้ซื้อและผู้แชร์เป็นหลัก

ในที่นี้ผู้แชร์คือผู้บอกต่อถึงข้อดีข้อเสีย หรือแชร์ประสบการณ์การใช้งานสินค้าแต่ละชิ้นอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งส่งผลให้ ผู้ซื้อรู้สึกว่าอยากซื้อตามบ้าง และนี่คือหลักการของ PUNDAI ที่อยากมอบผลประโยชน์กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าคุณจะเป็น “ผู้ขาย” “ผู้แชร์” หรือ “ผู้ซื้อ” คุณจะได้รับผลดีจากการตลาดรูปแบบนี้ทั้งสิ้น

โดยเฉพาะคนที่อยากสร้างรายได้เสริมแบบไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องเสียเวลาดำเนินเอกสารทางธุรกิจ ไม่ต้องสต๊อกของ เพียงแค่แบ่งปันคอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้า หากมีคนซื้อตามคำแนะนำเหล่านั้นคุณก็จะได้ “ผลตอบแทน” ซึ่งมันเป็นรายได้แบบ Passive Income ลงแรงทีเดียวแต่ได้เงินแบบ Non-Stop บอกเลยว่านี่คือไอเดียทำเงินที่น่าสนใจมาก

แตกต่างจาก MLM ที่คุณอาจต้องหัวหมุนกับการบริหารทั้งงาน ทั้งคน และเวลาเพื่อปั้นยอดขายสูง ๆ ซึ่งมีปัจจัยต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมาก แถม PUNDAI ไม่มีค่าสมัคร และเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยอีกด้วยนะ

เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนที่เคยสงสัยและสับสนน่าจะร้อง “อ๋อ” ตาม ๆ กันเลยใช่ไหมคะ ว่าแท้จริงแล้ว MLM Business อาจไม่ใช่ “ตัวร้าย” อย่างที่เราคิด เพราะมีความแตกต่างกับ “แชร์ลูกโซ่” ซึ่งนั่นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างสิ้นเชิงเลย แต่สำหรับ PUNDAI นั้นไม่ใช่ MLM แต่เป็นเครื่องมือการตลาด ที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านค้า ช่วยกรองสินค้าที่ดีมีคุณภาพให้ผู้ซื้อผ่านผู้แชร์ที่สร้างคอนเทนต์ดี ๆ และได้รายได้ด้วย เรียกได้ว่าดีงามจริงอะไรจริง ใครที่อยากลองเป็นผู้แชร์บอกต่อสินค้าเด็ด ๆ เพื่อเพิ่มรายได้อีกช่องทางแบบง่าย ๆ ก็สามารถใช้ PUNDAI เป็นตัวช่วยได้นะคะ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)