คุณอยากเป็นหนูถีบจักรที่ทำงานประจำตลอดชีวิตไหม? จะดีกว่าหรือไม่หากเราสามารถสร้างอิสรภาพทางการเงินด้วยตัวเองได้จากอาชีพแม่ค้าออนไลน์ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจเถียงขึ้นมา เพราะแค่เพิ่งเริ่มต้นก็ถอดใจเพราะไม่รู้จะทำยังไงให้ขายดี ลองทุ่มทุนไปตั้งเยอะกลับไม่ได้ขายดีแบบที่คิด ไม่เป็นไรค่ะเพราะบทความนี้จะมาแชร์เคล็ดลับขายของออนไลน์ วิธีขายของออนไลน์ที่ไม่ว่าใครทำตามก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จะมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
ข้อดี-ข้อเสียของการขายของออนไลน์
ก่อนที่จะไปดูเทคนิคการขายออนไลน์ อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการขายของออนไลน์ก่อนว่ามีอะไรบ้าง ถ้าโอเคกับข้อเสียเหล่านี้ก็ลุยต่อได้เลย
ข้อดีการขายออนไลน์
- ค่าโสหุ้ย (ต้นทุนแฝงในการดำเนินกิจการ) : คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าหน้าร้านหรือเสียเงินไปกับค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
- เข้าถึงลูกค้าทั่วโลก: การเปิดร้านค้าออนไลน์ช่วยให้คุณสามารถขายให้กับลูกค้าได้ทุกที่ในโลก
- เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง : ร้านค้าออนไลน์เปิดตลอดเวลา ซึ่งหมายความว่าลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตลอดเวลาอีกด้วย
- ตั้งค่าปรับแต่งได้ง่าย : มีหลายแพลตฟอร์ม เช่น Shopify ที่ทำให้ตั้งค่าร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายและเริ่มขายได้อย่างรวดเร็ว
- เริ่มต้นได้ง่าย : การขายของออนไลน์ใคร ๆ ก็ทำได้แม้แต่นักเรียน นักศึกษา เพราะไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา
ข้อเสียการขายของออนไลน์
- การแข่งขันสูง : การขายออนไลน์ในปัจจุบันมีการแข่งขันมากมายในตลาดออนไลน์ ซึ่งทำให้ยากที่จะโดดเด่นและดึงดูดลูกค้าได้ เนื่องจากใคร ๆ ก็สามารถขายออนไลน์ได้
- การจัดส่งและจัดการสินค้า : คุณจะต้องหาวิธีจัดการการจัดส่งและจัดการสินค้า ซึ่งอาจใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ระบบ Fullfillment มาช่วยจัดการ
- ความปลอดภัย : มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ต้องพิจารณา เช่น ความเสี่ยงจากการฉ้อโกงบัตรเครดิตและการละเมิดข้อมูล
- การบริการลูกค้า : การให้บริการลูกค้าที่ดีอาจเป็นเรื่องยากเมื่อคุณไม่ได้ติดต่อกับลูกค้าด้วยตนเอง เช่น การใช้ Chatbot บางครั้งก็เป็นวิธีขายออนไลน์ที่อาจให้ข้อมูลผิดพลาด หรือ การบริการไม่ดีเท่าการพูดคุยแบบหน้าร้าน
อยากขายออนไลน์ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
สำหรับมือใหม่หัดขายออนไลน์มีสิ่งที่ควรเตรียมพร้อมไว้ก่อนลงสนามขายจริง ดังนี้
1. ขอใบอนุญาตหรือใบอนุญาตที่จำเป็น
คุณอาจต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหรือใบอนุญาตอื่น ๆ สำหรับก่อนจึงจะสามารถขายออนไลน์ได้อย่างถูกกฎหมาย แนะนำให้ศึกษาข้อกำหนดเกี่ยวกับสินค้าการขายออนไลน์ คืออะไรก่อนที่จะขายจริงทุกครั้ง
2. ตั้งค่าที่อยู่อีเมลแบบมืออาชีพ
ใช้ที่อยู่อีเมลที่เชื่อมโยงกับธุรกิจของคุณ แทนการใช้ที่อยู่อีเมลส่วนตัว สิ่งนี้จะช่วยให้คุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
3. ใช้เว็บไซต์ที่ดูเป็นมืออาชีพ
ใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ เช่น Shopify หรือ WooCommerce เพื่อสร้างร้านค้าออนไลน์ที่ดูเป็นมืออาชีพ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า UX และ UI ตอบรับความต้องการด้านการใช้งานของลูกค้าได้อย่างดี
4. ใช้ภาพถ่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
วิธีขายของออนไลน์ที่ห้ามมองข้ามและต้องลงทุน คือ การใช้ภาพถ่ายคุณภาพสูงของสินค้า เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าจะเห็น แนะนำให้ใช้แสงธรรมชาติและพื้นหลังที่สะอาดตาเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ดูดีและโดดเด่นที่สุด
5. สร้างตัวตนบนโซเชียลมีเดีย
ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมทธุรกิจของคุณ แนะนำให้เลือกแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ศึกษาวิธีสร้างเพจขายของออนไลน์ให้น่าสนใจและอย่าลืมโพสต์อัปเดตเป็นประจำนะคะ
6. พิจารณาเสนอการสนับสนุนลูกค้า
เสนอการสนับสนุนลูกค้าผ่านอีเมล โทรศัพท์ หรือแชท เพื่อให้ลูกค้าติดต่อกับคุณได้ง่าย สิ่งนี้จะช่วยสร้างความไว้วางใจและกระตุ้นให้การซื้อขายออนไลน์จากร้านของคุณเพิ่มมากขึ้น
ขั้นตอนขายของออนไลน์ ทำตามง่าย ขายได้ชัวร์
อยากขายออนไลน์ แต่ไม่รู้จะขายอะไรดี เรามีคำแนะนำแบบ Step by Step รับรองว่าทำตามได้ ยอดขายเข้าแบบรัว ๆ แน่นอน
1. เลือกสินค้าที่จะขาย
ขั้นตอนแรกคือเลือกว่าจะนำเสนอสินค้าหรือบริการใด แนะนำให้ลองเลือกจากความสนใจ ทักษะ และประสบการณ์ของเราเองเป็นหลัก หรือสินค้าที่ตัวเองมีความรู้เกี่ยวกับการขายของออนไลน์หรือความสนใจจะช่วยให้ขายได้ง่ายกว่าสินค้าที่ตัวเราแทบไม่รู้จักมันเลย อาจจะศึกษาเรื่องสินค้าออนไลน์ที่ขายดีที่สุดเพื่อประกอบการตัดสินใจได้
2. เลือกแพลตฟอร์มในการขาย
มีแพลตฟอร์มมากมายสำหรับการขายออนไลน์ เช่น Website, Social Media , E-Marketplace แนะนำให้เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณเป็นหลักจะเป็นวิธีขายของออนไลน์ให้ปัง เช่น ถ้าเป็นแม่ค้ามือใหม่ยังไม่อยากลงทุนจ่ายค่าทำเว็บไซต์และค่า Hosting ก็อาจจะใช้ Social Media ที่สามารถเปิดร้านได้ฟรีก่อนก็ได้
3. ตั้งค่าร้านค้าออนไลน์
ทำตามคำแนะนำที่ให้ไว้โดยแพลตฟอร์มที่คุณเลือกเพื่อตั้งค่าร้านค้าของคุณ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มสินค้า การตั้งราคา และสร้าง Payment Gateway การชำระเงิน
4. โปรโมทร้านค้าของคุณ
เมื่อตั้งค่าร้านค้าของคุณแล้ว คุณจะต้องโปรโมตเพื่อดึงดูดลูกค้าซึ่งมีหลากหลายวิธีด้วยกัน เช่น Social Media Marketing, Content Marketing, Affiliate Marketing เป็นต้น
5. ดำเนินการตามคำสั่งซื้อ
เมื่อมีรายการคำสั่งซื้อเข้ามา ให้คุณทำการดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า โดยขั้นตอนนี้ควรใส่ใจเรื่องของความถูกต้อง เรียบร้อยและความรวดเร็วเป็นหลัก
6. ให้การสนับสนุนลูกค้า
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างดีเยี่ยม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อในเชิงบวกในธุรกิจออนไลน์ คือ การตอบคำถามของลูกค้า การจัดการการส่งคืนหรือการแลกเปลี่ยน และการจัดการปัญหาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งนี่จะช่วยสร้างความประทับใจและสะท้อนความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง
หากเพื่อน ๆ สนใจเปิดร้านค้าออนไลน์ ทาง PUNDAI ของเราพร้อมนำเสนอสาระดี ๆ ด้านการทำการตลาดออนไลน์ และให้ความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ที่สร้างความเชื่อมั่นและรายได้
หลังจากที่ได้ทราบเกี่ยวกับว่าธุรกิจออนไลน์ มีอะไรบ้างรวมถึงการขายออนไลน์ ข้อดี ข้อเสีย สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากได้ยอดขายปังแบบง่าย ๆ แนะนำให้ลองมาใช้เครื่องมือช่วยขายด้วย Affiliate Marketing อย่าง PUNDAI อนาคตแห่งการขายของออนไลน์ที่จะทำให้การขายเป็นเรื่องง่ายและสร้างรายได้อย่างถล่มทลายโดยที่ไม่ต้องเสียค่าการตลาดสักบาท! ความสำเร็จอยู่ต่อหน้าคุณแล้ว อยู่ที่ว่าคุณพร้อมจะยอมรับมันไหม สนใจแอดไลน์มาที่ @pundaiofficial ได้เลยค่ะ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ขายของออนไลน์อะไรดี 2566
สินค้าที่ยังคงเป็นที่ต้องการในปี 2566 คือ สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม / เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย / อุปกรณ์ออกกำลังกาย / เครื่องสำอาง / ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร / อุปกรณ์ป้องกัน COVID19 เป็นต้น