แม่ค้าออนไลน์คืออะไร? อาชีพของคนรุ่นใหม่ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก!
บุคคลทั่วไปที่มาขายของออนไลน์ เป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เราเรียกว่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ มีทั้งกลุ่มแม่บ้านพ่อบ้าน กลุ่มนักเรียนนักศึกษา กลุ่มทำอาชีพเสริมคู่งานประจำ กลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพจากโลกออนไลน์ ปัจจุบันกลายเป็นอาชีพใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก
อยากเป็นแม่ค้าออนไลน์ต้องเริ่มจากตรงไหน?
อยากเป็นแม่ค้าออนไลน์ไม่ยากเลย เพียงอ่านจากบทความนี้ก็สามารถ เริ่มได้แล้ว มาดูกันว่าอยากเป็นแม่ค้าออนไลน์ต้องเริ่มจากตรงไหน
1. ต้องรู้ว่าอยากขายอะไร
แม่ค้าออนไลน์ขายอะไรดี สามารถดูได้จากความชอบว่าอยากทำอะไรก็จะได้ดี แล้วก็เลือกขายสิ่งนั้นได้เลย เวลาเชียร์สินค้าก็จะขายได้ดี หรือ อาจจะเลือกจากสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าส่วนใหญ่ ที่ใช้แล้วหมดไปต้องซื้อซ้ำก็ได้
2. หาแหล่งสินค้าที่จะมาขาย
เมื่อรู้ว่าจะขายอะไรแล้วก็ไปหาแหล่งสินค้าที่จะมาขาย ไม่ว่าจะตลาดคลองถม ตลาดเช้าสำเพ็ง ตลาดประตูน้ำ โบ๊เบ๊ หรือเว็บสั่งของจากจีน เพื่อให้ได้ราคาต้นทุนที่ถูกที่สุดและเพื่อที่คุณจะได้ทำกำไรได้มากที่สุด
3. หาแพลตฟอร์มที่จะไปวางขายสินค้า
ขึ้นชื่อว่าแม่ค้าออนไลน์ก็ต้องขายของบนออนไลน์ ก็ต้องเลือกแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ดัง ๆ อย่าง Facebook TikTok Instagram Youtube E-MarketPlace Line OA ยิ่งมีครอบคลุมยิ่งได้เปรียบเพราะลูกค้าจะเข้ามาหลายช่องทาง ลองเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับธุรกิจคุณได้เลย
4. หาช่องทางการชำระเงินให้หลากหลาย
ขายของได้แล้วก็ต้องมีช่องทางการชำระเงินให้ลูกค้าได้สะดวกสบาย มีทั้งแบบ Mobile Banking แบบ Promptpay และแบบเก็บเงินปลายทาง เพราะบางคนก็สะดวกจ่ายเงินสด ดังนั้นคุณก็ต้องเตรียมช่องทางการชำระเงินให้หลากหลาย
5. เลือกบริษัทขนส่ง
การขนส่งสามารถไปส่งที่ไปรษณีย์ไทยได้ ราคาไม่แพงก็จะช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนไปได้ แต่หากคุณมีออเดอร์จำนวนมาก แนะนำให้หาบริษัทขนส่งเอกชนเข้ามารับออเดอร์ที่ร้านจะสะดวกกว่าคุณไปส่งเอง เลือกบริษัทขนส่งเอกชนที่มีความมั่นคงมีมาตรฐาน ในบ้านเรามีหลายแห่งด้วยกัน

แม่ค้าออนไลน์ขายอะไรดี?
ในท้องตลาดมีสินค้ามากมาย จะขายอะไรดีก็เลือกในสิ่งที่ตัวเองถนัดก็ได้เพื่อที่จะได้ขายได้อย่างมีความสุขและนำเสนอได้อย่างจริงใจ
1. ขายสกินแคร์
2. ขายเสื้อผ้าแฟชั่น
3. ขายกระเป๋าแฟชั่น
4. ขายรองเท้าผ้าใบแฟชั่น
5. ขายสินค้าแม่และเด็ก
6. ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
7. ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า
8. ขายอุปกรณ์ในครัวเรือน
9. ขายอาหารและเครื่องดื่ม
10. ขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง
แม่ค้าออนไลน์อยากขายดี ต้องทำยังไง?
อยากขายดี ก็ต้องศึกษาและทำความเข้าใจวิธีการขาย การทำตลาด การเลือกกลุ่มเป้าหมาย การบริการหลังการขาย และอื่น ๆ อีก มีอะไรบ้าง
1. เลือกสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาด
ลองวิเคราะห์ตลาดดูว่าสินค้าอะไรขายดี สินค้าอะไรตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ดี สามารถดูได้จากใน Google Shopee Lazada ในหมวดสินค้าขายดีก็ได้
2. จ้างอินฟลูเอนเซอร์รีวิวสินค้าให้กับเรา
จ้างอินฟลูเอนเซอร์รีวิวสินค้าเป็นอีกวิธีการเพิ่มยอดขายได้ดีเลยทีเดียว เพราะพวกเขาจะมีอิทธิพลต่อผู้คนมาก ไม่ว่าจะพูดอะไร รีวิวสินค้าอะไร ก็มักส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้คนได้มากเลยทีเดียว
3. ทำคอนเทนต์ที่สดใหม่และเป็นประโยชน์
การทำคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คน จะสร้างผู้ติดตามได้มากเลยทีเดียว เพราะผู้คนสมัยนี้เลือกอ่านแต่คอนเทนต์ที่สดใหม่และเป็นประโยชน์ต่อเขา หากร้านของคุณทำคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ ไม่เน้นขาย รับรองว่าจะสร้างผู้ติดตามได้มากเลย ส่งผลให้เข้ามาดูร้านของคุณและโอกาสตัดสินใจซื้อสินค้าร้านคุณก็มีมากขึ้น
4. ใช้แพลตฟอร์มให้ถูกกับธุรกิจ
เลือกแพลตฟอร์มให้เข้ากับธุรกิจคุณซึ่งมีทั้ง Facebook TikTok Instagram Youtube Website E-Marketplace Pundai แต่ละแพลตฟอร์มมีการใช้งาน ข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันไป เลือกให้เหมาะกับร้านและสินค้าคุณ ศึกษาวิธีสร้างเพจขายของออนไลน์ วิธีการโพส และคอนเทนต์อย่างรอบคอบ
5. สร้างตัวตนให้เกิดบนโลกออนไลน์
ข้อนี้สำคัญมากเลยด้วยการสร้างตัวตนให้เกิดบนโลกออนไลน์ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือ พิมรี่พาย ที่สร้างตัวตนจากแม่ค้าตลาดนัดทั่วไป สร้างตัวตนขึ้นมาจนโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ส่วนการสร้างตัวตนแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพของแต่ละคนเลย ไม่ต้องเหมือนกันก็ได้ บางคนขายขำ ขายสวย ขายดุดัน ขายสายโหด ก็เลือกให้เหมาะกับตัวคุณ

แม่ค้าออนไลน์ขายช่องทางไหนดี
เป็นแม่ค้าออนไลน์แล้ว ก็ต้องหาช่องทางการขายให้ถูกกับธุรกิจของคุณด้วย ว่าแต่จะเลือกช่องทางไหนดี เรามาดูกันว่ามีช่องทางไหนบ้าง
1. Facebook
ช่องทางยอดนิยมของแม่ค้าออนไลน์ที่เข้ามาเปิดร้านกันมากที่สุด เพราะมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 2.5 พันล้านคนเข้ามาเล่น Facebook ช่วงอายุอยู่ที่ 25-40 ปี
2. TikTok
เรียกได้ว่า แพลตฟอร์ม TikTok มาแรงแซงโค้งกันเลย เพราะเป็นการสร้างและแชร์คลิปสั้น ๆ ที่สร้างความบันเทิงได้อย่างดี ทั้งสร้างคอนเทนต์ตลก เฮฮา เรียกผู้ชมเข้ามาแพลตฟอร์มนี้ได้มากเลย และในปัจจุบัน TikTok ได้พัฒนามาเปิดร้านค้าขายของเพิ่มขึ้นอีกด้วย TikTok Shop ทำให้แม่ค้าออนไลน์ต่างหันมาเปิดร้านค้าออนไลน์ขายของกันจำนวนมาก และต้องบอกว่ากระแสตอบรับดีมาก ๆ เลยทีเดียว ด้วยค่าส่งฟรีเมื่อซื้อครบ 150 บาทซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ก็เกิน 150 บาทกันอยู่แล้ว ทำให้ผู้คนหันมาซื้อขายกันบน TikTok shop กันมากขึ้น และที่สำคัญมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 35.8 ล้านคนเข้ามาเล่น Facebook ช่วงอายุอยู่ที่ 18-24 ปี
3. Instagram
เป็นช่องทางที่นิยมเรื่องของการโพสต์ภาพ ภาพสินค้ามากกว่าการขายของ แต่ก็มีไว้สำหรับการโปรโมตภาพสินค้าโดยเฉพาะภาพเสื้อผ้าแฟชัน รองเท้า กระเป๋า ซึ่งช่องทาง Instagram มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้านคนเข้ามาเล่น Instagram ช่วงอายุอยู่ที่ 18-25 ปี ก็ถือว่าเป็นช่องทางที่น่าสนใจเลยทีเดียว
4. Pundai
เครื่องมือการตลาด Affiliate ช่วยขายออนไลน์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายดาย เรียกได้ว่าตอบโจทย์การฝากขายผ่านทุกช่องทางแบบ Affiliate ไม่ว่าจะฝากขายผ่านอินฟลูเอนเซอร์ หรือ ตัวแทนจำหน่ายที่เข้ามาร่วมงานกับปันได้ เพียงแชร์สินค้าบนโซเชียลมีเดีย รับไปเลยส่วนแบ่งการตลาดที่ใคร ๆ ก็เข้ามาทำได้เลย
5. Website
การขายสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์คือขายโดยตรงกับลูกค้า มีข้อดีคือทำให้แบรนด์ของคุณมีความน่าเชื่อถือ มีตัวตนสำหรับลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้ากับคุณได้ง่ายมากขึ้น
PUNDAI ตัวช่วยแม่ค้าออนไลน์รุ่นใหม่ที่อยากขายดี!
ถึงเวลานี้ใคร ๆ ก็สามารถเริ่มต้นกับอาชีพแม่ค้าออนไลน์ได้ เพียงเข้าใจถึงขั้นตอนการเริ่มต้น เข้าใจวิธีการขายของออนไลน์อย่างไรให้ขายดี ขายบนช่องทางไหนดี เลือกเครื่องมือการตลาดที่ใช่กับธุรกิจของคุณ เพียงเท่านี้คุณก็จะเป็นแม่ค้าออนไลน์คิดบวกที่ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน
แต่หากคุณต้องการเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังที่จะเข้ามาช่วยทำการตลาดแบบ Affiliate ที่เป็นการฝากขายผ่านทุกช่องทาง ทั้งผ่านอินฟลูเอนเซอร์ หรือตัวแทนจำหน่าย ด้วยวิธีง่าย ๆ แชร์สินค้าบนโซเชียลมีเดียก็รับส่วนแบ่งการตลาดไปเลย สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PUNDAI หรือแอด Line @pundaiofficial
คำถามที่พบบ่อย
แม่ค้าออนไลน์ทำบัญชียังไง
ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รายงานเงินสด รับจ่าย บันทึกทุกวัน นับตั้งแต่วันที่รับจ่ายเงิน ลงรายการสรุปยอดของแต่ละวัน มีเอกสารประกอบ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี หากมีการขายซื้อเป็นเงินเชื่อให้ลงรายการในวันที่ได้รับจ่ายเงินจริง แล้วสรุปยอดรายรับรายจ่ายเป็นรายเดือนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
แม่ค้าออนไลน์ส่งของยังไง
ไปส่งทางไปรษณีย์ไทย, ส่งทางบริษัทขนส่งเอกชน Kerry, Flash Express, J&T Express, Ninja Express. หรือต้องการด่วนก็เรียก Lalamove, Line, Grab แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นตามมา
การเสียภาษีแม่ค้าออนไลน์คิดยังไง
ภาษีแม่ค้าออนไลน์จัดอยู่เงินได้ประเภท 8 คือ เงินได้จากการค้าขาย
เวลาการยื่นภาษีมี 2 ช่วง
1. ยื่นภาษีสิ้นปี ภ.ง.ด. 90
2. ยื่นภาษีกลางปี ภ.ง.ด. 94
โดยคำนวณภาษี (รายได้-ค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อน)xอัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย
การคิดค่าใช้จ่ายมี 3 แบบ
1. หักค่าใช้จ่ายตามอัตรา 60% – สำหรับร้านที่ซื้อมาขายไป
2. หักค่าใช้จ่ายตามจริง – สำหรับร้านที่ผลิตเสื้อผ้าเอง
3. หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา – คิดภาษี 0.5% หากรายได้มากกว่า 1 ล้านบาท
อัตราการคิดภาษี
เงินได้สุทธิ 150,001-300,000 บาท/ปี เสียภาษี 5%
เงินได้สุทธิ 300,001-500,000 บาท/ปี เสียภาษี 10%
เงินได้สุทธิ 500,001-750,000 บาท/ปี เสียภาษี 15%
เงินได้สุทธิ 750,001-1,000,000 บาท/ปี เสียภาษี 20%
เงินได้สุทธิ 1,000,001-2,000,000 บาท/ปี เสียภาษี 25%
เงินได้สุทธิ 2,000,001-5,000,000 บาท/ปี เสียภาษี 30%
เงินได้สุทธิ 5,000,001 ขึ้นไป เสียภาษี 35% ของรายได้